ประหยัดมากกับซอฟต์แวร์ทั้งหมดวันนี้ค่ะ

MRP 10.0 : โปรแกรมระบบ Material Requirement Planning (MRP) เป็นระบบที่ช่วยในการวางแผนความต้องการวัตถุดิบ
ระบบวางแผนความต้องการวัสดุสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรม
7800.00฿
ซอฟต์แวร์ระบบ Material Requirement Planning (MRP) เป็นระบบที่ช่วยในการวางแผนความต้องการวัตถุดิบ คอยจัดการทั้งในส่วนของการดูแลที่มาที่ไปของวัตถุดิบ ตรวจสอบวัตถุดิบที่ต้องใช้ ไปจนถึงการสั่งซื้อเมื่อมีวัตถุดิบไม่พอ โดยหน้าที่หลักของ miniMRP นั้นจะออกแนวเฉพาะเจาะจงในส่วนของ Manufacturing หรือการผลิตในโรงงาน วางแผนความต้องการและสร้างตารางการผลิตที่เหมาะสม จัดสรรวัตถุดิบให้เพียงพอสำหรับการผลิตตามแผนงาน โดยมีหลักการสำคัญคือการสั่งซื้อวัตถุดิบให้เพียงพอกับจำนวนและเวลาที่ต้องการ โดยระบบ miniMRP จะรวบรวมคำสั่งซื้อที่ได้รับและ forecast มาประมวลผล จากนั้นจึงจัดทำแผนความต้องการวัสดุประเภทต่างๆ
ช่วยลดจำนวนสินค้าคงคลังที่ต้องเหลือค้าง ด้วยระบบที่เอื้ออำนวยในการสั่งซื้อวัตถุดิบแบบผ่านการคิดคำนวณเวลาและการเก็บรักษา รวมไปถึงการใช้งานที่พอดีกับการผลิตจึงไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองหรือจัดหาสถานที่สำหรับเก็บวัตถุดิบคงคลัง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาหรือจัดเก็บไปได้มากทีเดียว ทั้งหมดเป็นสาเหตุให้การบริหารจัดการที่มาจากระบบ MRP คือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การผลิตสินค้ามีประสิทธิภาพ เป็นการใช้ทรัพยากรและต้นทุนที่มีอย่างคุ้มค่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้มากขึ้นรวมถึงลดความสูญเปล่าของเวลาและทรัพยากรที่มี miniMRP ยังสามารถเชื่อมข้อมูลกับระบบอื่นๆ ได้ง่าย เพียงไม่กี่คลิก ก็เสร็จแล้ว
- เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้ง่าย : ระบบ mini MRP สามารถ import ข้อมูลเข้าหรือ export ข้อมูลออก กับระบบอื่นผ่านทางไฟล์ Excel ได้สะดวก รูปแบบข้อมูลเข้าใจง่าย เพียงแค่ 2-3 คลิก ก็เสร็จเรียบร้อย
| แยกแยะแผนที่ถูกวางไว้แล้วด้วยสี : หลังประมวลผล MRP ระบบจะแนะนำแผนการสั่งซื้อ หรือสั่งผลิต (บางรายการอาจไม่ผลิต แต่จะซื้อมาขายต่อ) ถ้าเห็นเป็นเขียว คือ แผนได้ถูกวางไว้แล้ว และรอดำเนินการอนุมัติ P/O หรือ W/O
| ทำโครงสร้าง BOM ได้สูงสุดถึง 9 ชั้น : โครงสร้าง BOM อยู่ในลักษณะของ tree view ซึ่งสามารถออกแบบสินค้าหรือชิ้นส่วนที่ซับซ้อนได้ถึง 9 ระดับ (ปกติบริษัทหรือโรงงานทั่วไปมักจะออกแบบไว้แค่ 1-2 ระดับ ก็เพียงพอแล้ว)
| ใส่ memo ไว้ในแต่ละแผน ระหว่างรอดำเนินการได้ : หลังประมวลผล MRP ออกมา ระบบจะแนะนำแผนการสั่งวัสดุออกมา (สามารถทำได้ทั้งการสั่งซื้อ หรือสั่งผลิต) ซึ่งโดยปกติจะต้องประสานกับหน่วยงานอื่น เช่น รอให้เปิดใบสั่งผลิต, รออนุมัติใบสั่งซื้อ ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น
| ดูโครงสร้างของผลิตภัณฑ์ได้สะดวก : บางครั้งเราอาจมีข้อสงสัยของผล MRP ที่ได้ออกมา ก็สามารถตรวจสอบย้อนกลับด้วยข้อมูล โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ เช่น โครงสร้าง BOM, ค่าของ leadtime/safety stock/lot size ของแต่ละรายการว่าเป็นอย่างไร
| รับ demand ได้ทั้งแบบคำสั่งซื้อและ forecast : สามารถรับ demand ได้ทั้งแบบ คำสั่งซื้อ ที่มาจากลูกค้า และ forecast ที่มาจากฝ่ายขายหรือผู้บริหาร โดยประมวลผล MRP รวมกันทั้งสองแบบได้ทั้งหมด
| เลือกประมวลผล MRP เฉพาะบาง demand ได้ : สามารถเลือกประมวลผล MRP เฉพาะบาง demand ได้ เพื่อใช้ในการตรวจเช็ค หรือ simulate plan ว่าควรจะเลือกใช้แผนแบบไหนถึงจะเหมาะสม ในการสั่งซื้อ (Purchase Order) หรือสั่งผลิต (Work Order)
| ดัก common part ที่ใช้ร่วมกันในหลายผลิตภัณฑ์ได้ : การมี common part ที่ใช้ร่วมกันในหลายผลิตภัณฑ์ได้ เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการลดต้นทุน ระบบสามารถดักออกมาและรวมเป็น requirement เดียว (ถ้าอยู่ใน time slot เดียวกัน) ช่วยให้การสั่งซื้อหรือสั่งผลิต ทำครั้งเดียวจบ
| จำลองสถานการณ์ ในปัจจัยรับของเข้าได้ (Receipt) : การหาจุดที่ optimize ที่สุดในแผนการสั่งของ อาจต้องใช้การจำลองสถานการณ์ ในปัจจัยรับของเข้า (Receipt) เพื่อประเมินว่า ควรจะใช้ที่ time slot ไหน และจำนวนเท่าไร (ส่วนนี้ควรใช้เฉพาะคนที่ทำ MRP เก่ง ซึ่งจะมองขาด)
| จำลองสถานการณ์ ในปัจจัยต้องการของได้ (Require) : การหาจุดที่ optimize ที่สุดในแผนการสั่งของ อาจต้องใช้การจำลองสถานการณ์ ในปัจจัยต้องการของ (Require) เพื่อประเมินว่า ควรจะใช้ที่ time slot ไหน และจำนวนเท่าไร (ส่วนนี้ควรใช้เฉพาะคนที่ทำ MRP เก่ง ซึ่งจะมองขาด)
| Lot size ของผลิตภัณฑ์ มีผลกับการสั่งผลิต หรือสั่งซื้อ : ถ้าระบบตรวจพบว่า demand ที่ต้องการของน้อยกว่า lot size ในการสั่งผลิต หรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ (Goods) ระบบก็จะแนะนำให้สั่งตามจำนวน lot size ที่กำหนดไว้ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ แทนที่จะสั่งตามจำนวน demand ที่ระบุไว้
| Lot size ของวัสดุ มีผลกับการสั่งผลิต หรือสั่งซื้อ : ถ้าระบบตรวจพบว่า demand ที่ต้องการของน้อยกว่า lot size ในการสั่งซื้อวัสดุ (Material) ระบบก็จะแนะนำให้สั่งตามจำนวน lot size ที่กำหนดไว้ในวัสดุนั้นๆ แทนที่จะสั่งตามจำนวน requirement ที่ระบุไว้
| Safety stock ของผลิตภัณฑ์ มีผลกับการสั่งผลิต หรือสั่งซื้อ : ถ้าระบบตรวจพบว่า จำนวนคงเหลือผลิตภัณฑ์ (Goods On-hand) ต่ำกว่าระดับที่กำหนดไว้ใน safety stock ระบบก็จะแนะนำให้สั่งผลิตหรือสั่งซื้อ ตามจำนวน safety stock ที่กำหนดไว้ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ
| Safety stock ของวัสดุ มีผลกับการสั่งซื้อ : ถ้าระบบตรวจพบว่า จำนวนคงเหลือวัสดุ (Materials) ต่ำกว่าระดับที่กำหนดไว้ใน safety stock ระบบก็จะแนะนำให้สั่งซื้อ ตามจำนวน safety stock ที่กำหนดไว้ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ
| Safety stock และ Lot size มีผลต่อการสั่งซื้อ : ถ้าระบบตรวจพบว่า จำนวนคงเหลือทั้งวัสดุ (Materials) หรือผลิตภัณฑ์ (Goods) ต่ำกว่าระดับที่กำหนดไว้ใน safety stock ระบบก็จะแนะนำให้สั่งซื้อ ตามจำนวนที่ถูกต้อง (เอาตัวที่มากที่สุดระหว่าง safety stock หรือ lot size)
| สต๊อก (FG & Material Stock) มีผลต่อ MRP : จำนวนคงเหลือผลิตภัณฑ์ (Goods) และวัสดุ มีผลต่อการรัน MRP ดังนั้นจะต้องมีการอัพเดทสถานะของสต๊อกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลการรัน MRP ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง